ชมรมรักษ์สุขภาพบ้านหนองเงือก

04-02resized

เป็นเวลาย่ำค่ำ ณ ลานหน้าที่ทำการของศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน บริเวณบ้านหนองเงือก ด้านหน้าอาคารมีต้นมะขามใหญ่แผ่กิ่งก้าน แสงไฟสปอตไลท์สาดส่องท่ามกลางลมหนาวที่พัดมาเสียดผิว ชาวบ้านหนองเงือกนับสิบชีวิตมารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ เตรียมความพร้อมที่จะขยับเขยื้อนร่างกายตามจังหวะเพลง

นี่เป็นที่นัดพบอย่างรู้กันของชาวบ้าน เป็นฟลอร์รำวงย้อนยุค และเวทีแอโรบิก ที่มีเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ทั้งหญิงทั้งชาย มารวมตัวกัน ภายใต้การขับเคลื่อนงานของชมรมรักษ์สุขภาพบ้านหนองเงือก ซึ่งมี สวัสดิ์ ศรีเนตร เป็นประธาน และมีสมาชิกจากกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. จำนวน 51 คน เป็นพลังหนุนมาตั้งแต่ปี 2548

“เราทำชมรมนี้ขึ้นมา เพราะผู้คนในหมู่บ้านไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย และถึงจะมีก็ยังไม่มีการทำอย่างเป็นสัดเป็นส่วน ต่างคนต่างทำ ทาง อสม. เลยร่วมแรงร่วมใจตั้งชมรมนี้ขึ้นมา เพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านได้ออกกำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิก ซึ่งช่วงแรกได้หาครูมาฝึกสอนให้ ชื่อครูโต้ง เป็นตำรวจ เคยมีประสบการณ์สอนในพื้นที่อื่นๆ มาแล้ว พอเขาถ่ายทอดจนพวกเราเต้นเป็น ก็เริ่มปักหลักทำกันเองจนถึงปัจจุบัน โดยเราพยายามหาวิธีชักชวนชาวบ้านมาออกกำลังกายเยอะๆ อย่างเวลานี้เราก็พัฒนารูปแบบการออกกำลังกายใหม่ๆ ทำเป็นรำวงย้อนยุคบ้าง ไทเก๊กบ้าง” ประธานชมรมกล่าว

ส่วนเวลาออกกำลังกายนั้นจะเริ่มตั้งแต่ 6 โมงเย็น หรือ 1 ทุ่ม แล้วแต่ความสะดวก โดยช่วงแรกได้รับความช่วยเหลือจาก สิงห์ทอง มูลชีพ ซึ่งเป็นเกษตรกรชาวสวนลำไยที่เห็นดีเห็นงามกับกิจกรรมของชมรมและอยากมีส่วนร่วมด้วย อนุเคราะห์พื้นที่ลานกว้างหน้าบ้านให้ รวมถึงให้ใช้เครื่องเสียง ซึ่งพอชาวบ้านเห็น อสม.ไปเต้น มีผลตอบรับด้านสุขภาพที่ดี ก็ตื่นตัวและอยากร่วมกิจกรรมด้วย

ทว่าด้วยความเกรงใจเจ้าของพื้นที่ ซึ่งใช้พื้นที่บริเวณนั้นทำเป็นโกดังลำไย ทางชมรมจึงค่อยๆ รวบรวมเงินออมของสมาชิก เงินที่เหลือของกลุ่ม อสม. ซึ่งได้รับจัดสรรทุกปี ปีละ 10,000 บาท รวมไปถึงขอบริจาคจากผู้มีส่วนร่วม และทางวัดหนองเงือกยังแบ่งเงินผ้าป่าส่วนหนึ่ง เพื่อเป็นงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องเสียงของตัวเอง และย้ายกิจกรรมมาทำที่บริเวณหน้าศูนย์สาธารณสุขมูลฐานตั้งแต่ปี 2550

“เราเต้นทุกวัน จะหยุดบ้างช่วงหน้าฝน ช่วงเกี่ยวข้าว หรือมีงานในหมู่บ้าน อย่างงานศพ งานทำบุญ เพราะไม่อยากรบกวนเขา แล้วเราก็ต้องเอาแรงของตัวเองไปช่วยเขาด้วย วันหนึ่งมีผู้เข้าร่วมประมาณ 30 คน ทั้งชาวบ้านและ อสม. เต้นกันประมาณ 1-2 ชั่วโมง โดยจะเริ่มจากการเล่นไทเก๊กก่อน แต่ว่าทุกวันนี้เล่นน้อยแล้วเหลือแต่ผู้สูงอายุเท่านั้น จากนั้นแอโรบิก แล้วถึงเต้นรำวงย้อนยุค ซึ่งได้รับความนิยมมาก เพราะว่ามีเพลงใหม่ๆ มาเสมอ และทางเทศบาลเองก็สนับสนุนด้วย”

ปัจจุบันชมรมรักษ์สุขภาพบ้านหนองเงือกได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลตำบลแม่แรง ในการจ้างครูสอนแอโรบิก สำหรับสอนท่าใหม่ๆ รวมไปถึงครูสอนไทเก๊ก ซึ่งเป็นวิชาที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังใช้ซื้อแผ่นซีดี ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย จากความตั้งใจดีที่จะส่งเสริมสุขภาพแก่ชาวบ้าน ทำให้ชมรมแห่งนี้ได้รับรางวัลมากมาย เช่น รางวัลสุขภาพดีถ้วนหน้า ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเกือบทุกปี รวมถึงได้ไปแสดงการรำวงย้อนยุค ทั้งระดับท้องถิ่นจนถึงระดับจังหวัดด้วย

“ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่ป่วยเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง การออกกำลังกายช่วยได้มาก สัดส่วนคนเป็นโรคลดลงไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังพยายามให้ชาวบ้านได้เรียนรู้เรื่องการกินอาหาร อย่างพืชผักปลอดสารเคมี เพราะจะช่วยทุเลาอาการของโรค และลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง นอกจากนี้เรายังมีศูนย์ข่าวประจำหมู่บ้าน โดยผมจะคอยพูดถึงเรื่องการบริโภคและออกกำลังกาย ซึ่งไม่ใช่แค่การรวมกลุ่มตอนเย็นเท่านั้น แต่ยังแนะนำการเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน เพื่อให้ทุกคนได้เลือกทำตามอัธยาศัย เพราะถือว่าเป็นภารกิจของเรา” สวัสดิ์กล่าวทิ้งท้าย…