“ทต.พุเตย” ผนึกกำลังทุกหน่วยงาน ตั้งศูนย์ “โควิด-19” สกัดเชื้อเข้าชุมชน

“ทต.พุเตย” ผนึกกำลังทุกหน่วยงาน ตั้งศูนย์ “โควิด-19” สกัดเชื้อเข้าชุมชน

 

นางจินตนา ทองใจสด นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลพุเตย อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ หนึ่งในเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ สนับสนุนโดยสำนักสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ประสานงานกับ 4 องค์กรหลัก จัดทำแผนรับมือกับไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่

 

หลังทราบถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางชุมชนก็เริ่มประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านรับรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจ และป้องกันตัวเองในเบื้องต้น เมื่อเริ่มเห็นตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้น จึงตั้ง ‘ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังการระบาดไวรัสโควิด-19’ เพื่อเตรียมรับมือ

 

ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังการระบาดไวรัส โควิด-19 เป็นการทำงานร่วมกันของเทศบาลตำบล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน กรรมการชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และตำรวจ ทำหน้าที่เป็นศูนย์อำนวยการวางแผน ติดตาม เฝ้าระวังการระบาด จัดทำแผนปฏิบัติการ ใช้สื่อประชาสัมพันธ์รณรงค์เพื่อให้เกิดการตระหนักและเข้าใจ

 

เช่น ใช้เสียงตามสายเน้นย้ำวันละ 3 เวลา จัดทำสื่อแผ่นพับแจกชาวบ้าน ใช้การสื่อสารผ่านสื่อโซเชียลอย่างเฟซบุ๊กและไลน์ และจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ในพื้นที่เพื่อให้ชาวบ้านเข้าใจยิ่งขึ้น

 

นางจินตนา ทองใจสด นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลพุเตย กล่าวว่า “เราจะมีการประชุมสรุปรายงานผลทุกวัน ผ่านการสื่อสารทางไลน์กลุ่มของคณะทำงาน แบ่งงานกันทำตามบทบาทหน้าที่ เทศบาลจะเป็นจุดอำนวยการ วางแผนการทำงาน ขณะเดียวกันโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จะลงพื้นที่ให้ความรู้ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการชุมชน และชาวบ้าน จะช่วยกันเฝ้าระวังในพื้นที่ของตัวเอง ถ้ามีใครเข้ามาในหมู่บ้านก็จะต้องแจ้งหรือรายงานให้ผู้ใหญ่บ้านทราบก่อนเลย”

 

สำหรับพื้นที่ในการดูแลของเทศบาลตำบลพุเตย มีทั้งหมด 9 ชุมชน 6 หมู่บ้าน ประชากรรวม 7,800 คน แต่มีคนที่อยู่ในพื้นที่จริง ประมาณ 3,000 คน ที่เหลือคือคนที่ออกไปทำงานนอกพื้นที่ จากการเฝ้าระวังที่ผ่านมา ยังไม่พบผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 แต่มีเคสที่ต้องเฝ้าระวังและกักตัวไว้ 14 วัน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

 

  1. กลุ่มที่กลับมาจากต่างประเทศ คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา แอฟริกาใต้ เกาหลี และ ญี่ปุ่น 7 ราย ซึ่งพ้นกำหนดการกักตัว 14 วันไปแล้ว 5 ราย ยังคงเหลืออีก 2 ราย ที่ต้องเฝ้าระวังต่อ

 

  1. กลุ่มที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด มีจำนวน 67 ราย ขณะนี้ยังต้องกักตัวเอง 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการ โดยจะมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ลงไปเยี่ยมตรวจและวัดไข้

 

สำหรับการกักตัวและเฝ้าดูอาการ ที่ผู้ที่เฝ้าระวังทำคือ แยกห้อง ใส่หน้ากาก แยกจาน ชาม ทานอาหารแยกกับครอบครัว และถ้าเป็นไปได้ก็ให้อยู่เฉพาะในห้องตัวเอง ซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมือ เพราะที่ผ่านมาเคยมีกรณีไม่ให้ความร่วมมือ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่และนำตำรวจลงไปช่วยเจรจา ทำความเข้าใจ ก็ผ่านไปด้วยดี

 

นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพุเตย กล่าวว่า “ชาวบ้านและผู้นำชุมชน ได้ช่วยกันเฝ้าระวัง ไม่ออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น หากไปซื้อของในตลาดสด ใครไม่สวมหน้ากากอนามัย แม่ค้าจะไม่ขายของให้ ชาวบ้านที่นี่จึงสวมหน้ากาก และหมั่นล้างมือ เพราะเขากลัวกัน”

 

โดยรวมแล้ว บรรยากาศในชุมชนตอนนี้ค่อนข้างเงียบสงบ ทุกคนพยายามอยู่ในบ้าน มีความระมัดระวัง ปฏิบัติตัวกันอย่างเคร่งครัด ทั้งคณะกรรมการหมู่บ้าน หมอ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ล้วนทำงานกันหนักมาก เพื่อให้วิกฤติครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

 

#อยู่บ้านหยุดเชื้อช่วยชาติ
#เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่
#ชุมชนเข้มแข็ง
#สสส