พลังสตรีที่ตำบลแว้ง เราอยู่ทุกที่ของการสู้โควิด
ทำงานเคียงข้างกันทุกเรื่อง ยืนเคียงข้างกันทุกจุด เมื่อโรคระบาดไม่เคยเลือกหน้าว่าจะเล่นงานใคร เราจึงได้เห็นคนชายแดนใต้ลุกขึ้นต่อสู้กับ COVID-19 อย่างแข็งขัน และเป็นอีกครั้งที่แถวหน้าของการทำงานมีทั้งชายและหญิง
นางสาวจุฑามณี หามะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแว้ง อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ภาคประชาชนคือเรี่ยวแรงสำคัญในการช่วยกันทำงาน ที่ผ่านมานอกจากอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) แล้ว ยังมีกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้หญิง ที่ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ ช่วยกันทำงานโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน
“หากเห็นผู้หญิงร่วมทำงานอยู่ตรงหน่วยคัดกรองด้วยก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะที่นี่มีผู้หญิงเข้าไปร่วม หนุนเสริมทุกกิจกรรมที่สามารถทำได้ รวมทั้งวิกฤตไวรัส COVID-19 กลางวันจะมีผู้หญิงประจำอยู่ที่ด่านคัดกรอง ส่วนกลางคืนจะเป็นหน้าที่ของผู้ชาย เครือข่ายสตรียังเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ คอยบริการข้าวปลาอาหารในการทำกิจกรรมอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่นับรวม อสม. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่เข้าไปทำภารกิจต่าง ๆ อย่างแข็งขัน เราถือว่าพลังจิตอาสาที่คอยแบ่งปัน ช่วยเหลือ เกื้อกูลกันนั้นน่ายกย่องอย่างยิ่ง และถือเป็นจุดแข็งของเราที่มีพลังเครือข่ายสตรีที่เข้มแข็ง”
นอกจากประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสาย และใช้โซเชียลมีเดียแล้ว หน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ยังเข้าไปทำความเข้าใจผ่านการพูดคุยกับพี่น้องชาวมุสลิมที่มาจิบน้ำชายามเช้า และบุคคลสำคัญที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงรณรงค์หรือให้ข้อมูลที่ถูกต้องคือผู้นำศาสนา ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านให้การยอมรับและเข้าใจสถานการณ์ รวมทั้งให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“สิ่งที่เราเรียนรู้คือ กระแสข่าวลือไปเร็วมาก วิธีการรับมือคือใช้ระบบช่วยพี่ช่วยน้อง และดึงเอาต้นทุนเดิมคือการเคารพ ให้เกียรติผู้ใหญ่และผู้นำ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะด้วยความที่เขาอยู่ใกล้ชิดกัน ไว้วางใจกัน เป็นญาติกัน เมื่อมีการตักเตือน พูดคุยกัน ก็จะนำไปสู่การช่วยเหลือปกป้องดูแลกันได้อย่างเต็มที่”
#อยู่บ้านหยุดเชื้อช่วยชาติ
#เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่
#ชุมชนเข้มแข็ง
#สสส