‘อบต.ตะบิ้ง’ ปัตตานี ผุด! ‘ศูนย์พักพิงชั่วคราว’ กักตัวกลุ่มเสี่ยง

‘อบต.ตะบิ้ง’ ปัตตานี ผุด! ‘ศูนย์พักพิงชั่วคราว’ กักตัวกลุ่มเสี่ยง

 

นายการียา ดีเยาะ ผู้อำนวยการกองการศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลตะบิ้ง อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี หนึ่งในเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ สนับสนุนโดยสำนักสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ขณะนี้ ทางชุมชนได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวขึ้น เพื่อใช้เป็นพื้นที่กักตัวกลุ่มเสี่ยง

 

โดยก่อนหน้านี้ มีผู้ติดเชื้อ 1 คน จากการเดินทางไปงานศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซีย และต่อเครื่องที่ประเทศ
สิงคโปร์ ก่อนที่จะกลับมาในพื้นที่ ทางชุมชนจึงตั้งใจประสานการทำงานในพื้นที่ ร่วมกับ 4 หน่วยงานหลัก รวมทั้งองค์กรศาสนา ‘โต๊ะอิหม่าม’ ในพื้นที่

 

ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จะทำหน้าที่โดยตรงในการดูแลที่ศูนย์กักตัว มีชุดอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อยู่เวรดูแลทุกวัน และมีเจ้าหน้าที่ทหารเป็นกำลังหลัก แทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการเฝ้าเวรยามศูนย์กักตัว ทั้งกลางวันและกลางคืน

 

ขณะที่ภาคประชาชน หรือชาวบ้านในพื้นที่ ได้ร่วมกันบริจาคข้าวปลาอาหารสนับสนุนภารกิจนี้ นอกเหนือจากองค์การบริหารส่วนตำบลที่รับผิดชอบเรื่องการกินอยู่ อาหาร และการดูแลทั้งหมด ทั้งนี้ถือว่าศูนย์ใหญ่ปฏิบัติการโควิด อยู่ที่องค์การบริหารส่วนตำบลเป็นหลัก โดยจะมีการประชุมประชาสัมพันธ์สรุปงานร่วมกันตามหมายกำหนดการ

 

นายการียา ดีเยาะ กล่าวว่า “การดูแลผู้ที่กักตัวอยู่ที่บ้าน ไม่มาอยู่ที่ศูนย์พักพิงนั้น เพราะบางคนมีภาระมาก ทางนายกฯ องค์การบริหารส่วนตำบลได้ส่งอาหาร และอุปกรณ์ความปลอดภัยต่าง ๆ ที่จำเป็น เช่น หน้ากากอนามัย เจล ผ่านอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเข้าไปเยี่ยมดูแล รับผิดชอบโดยตรงถึงบ้านของผู้ที่กักตัว 14 วัน”

 

นอกจากนี้ การจัดหาอุปกรณ์ความปลอดภัย ยังถือเป็นภารกิจหลักขององค์การบริหารส่วนตำบล ทั้งการรณรงค์ ชี้แจงทำความเข้าใจ ให้ความรู้ด้านสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ตลอดจนบริการแจกหน้ากากอนามัย และขอความร่วมมือให้ประชาชนไปรายงานตัวกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน หากเดินทางกลับมาในพื้นที่

 

ผู้อำนวยการกองการศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลตะบิ้ง ย้ำว่า “ขณะเดียวกัน ยังรวมไปถึงการประสานงานไปยังมัสยิดต่าง ๆ ให้เฝ้าระวัง โดยส่วนใหญ่จะปิดมัสยิดแล้วตามคำสั่งของจุฬาราชมนตรี งดการละหมาดวันศุกร์ และขอความร่วมมือ ประสาน โต๊ะอิหม่าม ในการให้ความรู้ การป้องกันตัวกับประชาชนที่มา รวมทั้งในมัสยิดก็ให้มีการกวดขันระวังเป็นพิเศษ ทั้งการทำความสะอาด ซึ่งมีกำลังของประชาชนในพื้นที่ เข้ามาช่วยกันทำความสะอาด มีการตั้งจุดวางเจลทำความสะอาด ก่อนที่ทุกคนจะเข้าไปในมัสยิด และมีข้อบังคับว่า ทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย”

 

บรรยากาศในพื้นที่ตอนนี้ ถือว่าประชาชนมีการตื่นตัวในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างมาก มีการสนับสนุนความรู้ ฝึกอบรม โดยองค์การบริหารส่วนตำบล และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้ทั้งเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และทีมกำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อนำไปถ่ายทอดความรู้ในครอบครัว

 

นายการียา ทิ้งท้ายว่า “ทั้งนี้ นวัตกรรมทางสังคมที่คิดว่าเห็นชัด คือ การที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เดินไปเคาะถึงประตูบ้าน หรือเรียกว่า โครงการเคาะประตูบ้าน เพื่อพูดคุย รณรงค์ ดูแล และให้ความรู้กับชาวบ้านชนิดเข้าถึงบ้าน ในการป้องกันตัวเอง ครอบครัว และชุมชน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดในพื้นที่ รวมทั้งการช่วยดูแลสุขภาพจิตของทั้งผู้ที่กักตัวอยู่ในบ้าน และผู้สูงอายุ”

 

#อยู่บ้านหยุดเชื้อช่วยชาติ
#เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่
#ชุมชนเข้มแข็ง
#สสส