“ไม่เครียด ไม่เหงา  เมื่อผู้สูงวัยได้พบกัน”  วิทยาลัยผู้สูงวัย  ไทนาป่าแซงบถิ่มกัน

 

รอยยิ้ม เสียงทักทาย ของคุณยาย วัย70-80 ปี ที่ตำบลนาป่าแซง   อ.ปทุมราชวงศา  จ.อำนาจเจริญ ทำให้อากาศเย็นในช่วงหน้าหนาว อบอุ่นขึ้นมาทันที

วันนี้ยายเพียร นำสีผึ้งมาฝากเพื่อน เพราะเป็นตำรับดั้งเดิมที่คุณยายบอกว่า เหมาะกับหน้าหนาวที่ทำให้ผิวแห้ง ริมฝีแตก จึงนำรังผึ้งที่คั้นเอาน้ำหวานออก นำมากวนรวมกับน้ำมันมะพร้าว กลิ่นหอม

“ยายมาทุกวันพุธ มาเจอเพื่อน มาเรียนหนังสือ (ยิ้มกว้างเห็นฟันขาว) ไม่เหงา เวลามาก็เอาของมาแลกเปลี่ยนกัน กวนสีผึ้งมาแบ่งเพื่อน เพื่อนบางคนก็เอาข้าว เอาอาหารมากินร่วมกัน”

ยายเพียร บอกว่า ก่อนทีจะมีโรงเรียนผู้สูงอายุ ก็อยู่บ้าน ไม่ค่อยได้ไปไหน พอมีกิจกรรมของเทศบาลจัดให้ผู้สูงอายุในชุมชนมาเจอกัน มาฟังพระเทศ มาออกกำลังกาย มาเรียนคอมพิวเตอร์ ก็สนุกสนาน เรื่องเรียนเป็นเรื่องรอง แต่ได้มาเจอเพื่อนเป็นเรื่องหลัก

ไม่เพียง ยายเพียรที่รู้สึกว่า การเจอเพื่อนคือยาชูกำลังของคนวัยสูงอายุ เพราะยายบุญถิ่น โฉมรักษ์  แม่นา แสนเขียว แม่ สาลี จันทร์ศรี   แม่ฉวีวรรณ  ที่รู้สึกไม่แตกต่าง

กัน

“มาทำกิจกรรมร่วมกัน ตอนเช้าก็มาสวดมนต์  มาเจอกันมีความสุขจิตใจร่าเริง เจ็บป่วย” ยาบบุญถิ่นบอก

ขณะที่ แม่นา และแม่ สาลี บอกว่า  กิจกรรมที่ชอบมากเมื่อมาโรงเรียนผู้สูงอายุคือ การร่วมกันทำดอกไม้จันทน์  สวดมนต์และออกกำลังกาย เพราะว่า การออกกำลังกายสามารถนำกลับไปทำต่อที่บ้านได้

แม่นา บอกว่า ลูกหลาน ดีใจมากที่มีโรงเรียนผู้สูงอายุ เพราะอยากให้แม่ได้มาร่วมกิจกรรมกับเพื่อนวัยเดียวกันจะได้ไม่เหงา

ด้วยการเรียนรู้ที่สนุกสนาน จากการได้พบปะสังสรรค์กัน ทำให้มีผู้สูงอายุในเทศบาลตำบล นาป่าแซง เป็นสมาชิก วิทยาลัยผู้สูงวัย  ไทนาป่าแซง บ ถิ่มกัน มากกว่า 250  คน โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นทุกวันพุธของทุกสัปดาห์

สำหรับการจัดตั้งวิทยาลัยผู้สูงอายุ ไทนาป่าแซง บ่ถิ่มกัน จัดตั้งขึ้นตามประกาศเทศบาล ตำบลนาป่าแซง เมื่อวันที่ 27 กรกฏาคม 2559  มีวัตถุประสงค์เพื่อดูแลผู้สูงอายุและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพ โดยเปิดรับสมัครผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 55  ปีขึ้นไป สอดคล้องกับแผนโครงสร้างวิทยาลัยและสอดรับกับการเพิ่มจำนวนมากขึ้นของผู้สูงอายุในตำบล

นอกจากนี้การดำเนินการดังกล่าวยังช่วยให้เกิดความรักสามัคคีแบบไม่ทิ้งกันในตำบลที่มีจำนวน 10 หมู่บ้าน

หลักสูตรของวิทยาลัยผู้สูงอายุจึงถูกออกแบบเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถดูแลตัวเองได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  โดยนำเอาหลักพุทธศาสนามาร่วมกันสวดมนต์ ทำสมาธิร่วมกัน และร่วมกันทำกิจกรรม ต่างๆเช่นการทำดอกไม้จันทน์ การออกกำลังกาย

ส่วนผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมกิจกรรมได้ เป็นผู้ป่วยติดเตียง ก็จะมีกิจกรรมในการพบปะเยี่ยมเยือนให้กำลังใจผู้ป่วยติดเตียง เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับคนวัยเดียวกัน

ผลจากการตั้งวิทยาลัยผู้สูงวัยได้ 2ปี  สิ่งที่เห็นชัดเจนคือ ความสุขที่มีเพิ่มมากขึ้นทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นเป็นผลต่อเนื่องตามมา

โดยในเรื่องนี้ได้รับการยืนยันจาก สุนันทา  มานะพิมพ์ ผู้อำนวยการ  รพ.สต.นาป่าแซง บอกว่า  ปกติผู้สูงอายุก็จะมีปัญหาเรื่องข้อเสื่อมโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง  หรือโรคไต แต่พอได้มาที่โรงเรียนนอกจากความรู้เรื่องการออกกำลังกายแล้ว เราก็มีความรู้ในเรื่องการดูแลตัวเอง

สุนันทา บอกว่า การออกกำลังกายจะมีเจ้าหน้าที่พาออกกำลังกายทำให้ ผู้สูงอายถุได้ท่าออกกำลังกายกลับไปทำต่อที่บ้าน  แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ความสุขที่ได้พบปะเพื่อนในวัยเดียวกัน  ทำให้ไม่เหงาไม่เครียด เมื่อจิตใจผู้สูอายุดีขึ้น ก็ทำให้ร่างกายดีขึ้นด้วย

“พอมีโรงเรียนผู้สูงอายุมีความสุขมากขึ้นจากการประเมินของเราเห็นชัดเจนว่ามีความเปลี่ยนแปลงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ”

สุนันทา บอกว่า อยากให้มีโรงเรียนผู้สูงอายุแบบนี้มากขึ้นในประเทศไทย เพราะว่าการที่ผู้สูงอายุได้พบกัน ทำให้ไม่เหงา ไม่เครียด ทำให้ผู้สูงอายุรู้ถึงคุณค่าของตัวเอง