จองพารา ศิลปะเมืองปอน

11-02-1resized

เรามาเยือนบ้านของชายสูงวัย ซึ่งสร้างขึ้นด้วยไม้ จากการประเมินด้วยสายตา อายุอานามคงเก่าแก่เกิน 30 ปี ใต้ถุนบ้านมีเตียงไม้ พร้อมด้วยเครื่องไม้เครื่องมือวางกอง อยู่ ทั้งค้อน เข็ม กรรไกร กระดาษ ฯลฯ โดยชายเจ้าของบ้านคือ ตาแหลงคำ คงมณี เป็นปราชญ์ชาวบ้านวัยเจ็ดสิบกว่า ผู้กำลังขะมักเขม้นตัดกระดาษเป็นรูปร่าง

เมื่อไถ่ถามว่า “กำลังทำอะไรอยู่” ผู้เฒ่าตอบกลับอย่างอารมณ์ดีว่า “กำลังเตรียมของไว้สอนเด็กๆ ทำจองพารา”

‘จองพารา’ เป็นพิธีกรรมความเชื่อของคนไทใหญ่ โดยคำว่า ‘จอง’ แปลว่าวัด หรือปราสาท ส่วนคำว่า ‘พารา’ แปลว่า พระพุทธรูป หรือพระพุทธเจ้า ฉะนั้นคำว่า ‘จองพารา’ จึงหมายถึงปราสาทของพระพุทธเจ้า โดยชาวบ้านได้นำความเชื่อนี้ไปผูกโยงกับเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หลังจากไปโปรดพระมารดา เมื่อวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 บ้านใดที่ตั้งจองพารา ก็เปรียบเสมือนบูชาพระพุทธเจ้า ในปีนั้นจะประสบแต่ความสุข ความเป็นมงคล และสมหวังในการประกอบอาชีพ

“เวลาออกพรรษา คนไทใหญ่จะตั้งจองพาราไว้ที่หน้าบ้าน ข้างในจองพาราจะแบ่งเป็นชั้นๆ ชั้นบนใส่ข้าวสุก ใส่ขนม เพื่อถวายเทพเจ้าที่จะลงมาประทับในจองพาราชั้นบน ส่วนชั้นล่างจะใส่กล้วย ผลไม้ เพื่อบูชาภูตผี ทั้งผีบ้านผีเรือน และผีบรรพบุรุษ” ตาแหลงคำว่า

สำหรับจองพาราแต่ละหลัง ใช้เวลาประดิษฐ์ประมาณ 2 วัน แต่ละบ้านจะตั้งจองพาราไว้หน้าบ้านประมาณ 8 วัน เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 หรือก่อนออกพรรษา โดยก่อนตั้งจะมีพิธีแห่รอบหมู่บ้าน

อย่างไรก็ดี มาช่วงหลังๆ คนตั้งจองพาราเริ่มน้อยลง เพราะว่าการประดิษฐ์จองพาราแต่ละหลังเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง จนในช่วงปี 2557 เป็นต้นมา องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองปอน ได้ร่วมกับโรงเรียนชุมชนบ้านเมืองปอน สนับสนุนให้นักเรียนมาศึกษาวิธีทำจองพารา โดยมีตาแหลงคำเป็นวิทยากร พร้อมกับอุดหนุนงบประมาณทำจองพาราแจกประชาชนในพื้นที่ โดยปีแรกทำแจก 100 หลัง และในปีถัดมาทำเพิ่มเป็น 200 หลัง

“เด็กจะทำโครงสร้างไม้ไผ่ ส่วนตาจะฉลุกระดาษตามแม่พิมพ์ เป็นลายดอกนอนเครือ ทำเสร็จแล้วนำไปให้ชาวบ้านที่ต้องการจองพาราไว้ตั้งหน้าบ้าน โดยมีเด็กๆ คอยนำไปส่งให้” ตาแหลงคำว่า

จนวันนี้ เมื่อถึงเวลา เราจะเห็นคนไทใหญ่ตั้งจองพาราไว้หน้าบ้าน เพื่อบูชาตามศรัทธา และความเชื่อ ทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของคนไทใหญ่ให้คงอยู่สืบไป

ทั้งยังทำให้บ้านของตาแหลงคำไม่เงียบเหงาจนเกินไปนัก…