ทุกครั้งไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหน หากมีคนโทรศัพท์มาขอรับโลงศพ ขาล ลาคำ ประธานกลุ่มรวมใจให้บ้านหลังสุดท้าย จะขับรถกระบะมายังศาลาธรรมสังเวช ในวัดโนนประชาสรรค์ แล้วขนส่งโลงที่เตรียมไว้ไปให้ผู้ร้องขอด้วยตัวเอง โดยไม่คิดค่าบริการแม้เพียงบาทเดียว
“เราบริการตลอด 24 ชั่วโมง บางครั้งไปส่ง บางครั้งมารับเอง ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ถ้ามีใจศรัทธาก็นำเงินใส่ตู้ให้ เรา
ช่วยเหลือทุกคนที่มีความต้องการ ทั้งคนทั่วไป ทั้งโรงพยาบาลบางทีตีสองโทรมา ก็ไปส่งให้” ลุงขาลเล่า
‘ให้ใจเขา ให้ความสะดวก’ คือปรัชญาการทำงานที่ลุงขาลยึดมั่นมานานกว่า 10 ปี โดยดั้งเดิมนั้นลุงขาลเป็นผู้ประสานขอรับโลงศพจากมูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์ในตัวจังหวัด เพราะเป็นสมาชิกของมูลนิธิฯ แต่มีขั้นตอนที่ต้องใช้เวลามาก จึงเลือกออกมาทำเองที่บ้าน
ด้วยความอยากช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือผู้ยากไร้ด้อยโอกาส ลุงขาลจึงเริ่มรวมกลุ่มเล็กๆ ที่ศาลาธรรมสังเวชวัดโนนประชาสรรค์ ช่วยกันต่อโลงศพ ทาด้วยสีทาไม้ โดยใช้เครื่องไม้เครื่องมือของตัวเอง ด้วยลุงขาลมีอาชีพรับเหมาเล็กๆ น้อยๆ
การทำงานต้องทำเป็นกลุ่มเป็นทีม ไม่มีใครทำคนเดียวได้ ลุงขาลบอกว่า สมาชิก 20 กว่าคนมาร่วมกันทำ ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกัน ทุกคนล้วนมาทำด้วยจิตอาสา ไม่มีค่าแรง โดยทุกวันนี้กลุ่มของลุงขาลจะดำเนินการต่อโลงศพปีละ 2 ครั้ง ทำครั้งหนึ่งใช้เวลาประมาณ 2 วัน ครั้งละ 25 ใบ
“ต้นทุนค่าวัสดุในการทำโลงศพครั้งหนึ่งประมาณสองหมื่นกว่าบาท เฉลี่ยโลงละหนึ่งพันบาท โดยเราได้เงินจากการตั้งตู้รับบริจาค ‘เชิญร่วมบริจาคให้บ้านหลังสุดท้าย’ ที่วางอยู่ตามร้านค้า โรงเรียนเทศบาล ภายในพื้นที่เทศบาลตำบลวังชมภู และชุมชนข้างเคียงอีก 4 ชุมชน คือห้วยสะแก ระวิง นายม และบ้านโตก โดยทางเจ้าหน้าที่เทศบาลจะคอยเปิดตู้และรวบรวมเงินมามอบให้กลุ่มฯ ในทุกวันที่ 4 ของเดือน นอกจากนี้ เมื่อมีการทำบุญสะเดาะเคราะห์ก็มีผู้สูงอายุและร้านค้าต่างๆ บริจาคให้ ที่สำคัญผู้สูงอายุที่พอมีกำลังทรัพย์ เมื่อวันรับเบี้ยก็จะช่วยบริจาคให้บ้านหลังสุดท้ายด้วย” ลุงขาลเล่า
ชุน คำเกตุ กรรมการกลุ่มรวมใจให้บ้านหลังสุดท้าย เสริมว่า บ้านวังชมภูเราอยู่กันแบบพี่แบบน้อง คนในหมู่บ้าน 400 กว่าคน เดินไปไหนไม่ต้องซื้อข้าวกิน เพราะเรียกกันกินข้าวตลอด งานบุญงานแต่งช่วยกันหมด มีอะไรก็ช่วยกัน และเมื่อยามที่กลุ่มรวมใจให้บ้านหลังสุดท้ายมารวมตัวกัน ทางโรงเรียนบ้าน กม.2 จะส่งนักเรียนมาร่วมทำด้วยทุกครั้ง
นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสแล้ว งานที่ลุงขาลและผองเพื่อนได้ทำอยู่นี้ ยังเป็นการประสานความร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชนด้วยอีกทาง…