ร้านเจ๊จี ไก่ย่างบุรีรัมย์
ความที่ตำบลโพรงมะเดื่อเป็นพื้นที่เมือง มีคนอยู่อาศัยจำนวนมาก ร้านอาหารจึงมีมากตามไปด้วย และอาหารชนิดหนึ่งที่ขาดเสียไม่ได้เลยไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของประเทศไทย คืออาหารอีสาน ซึ่งที่นี่มี ร้านเจ๊จี ไก่ย่างบุรีรัมย์
ความที่ตำบลโพรงมะเดื่อเป็นพื้นที่เมือง มีคนอยู่อาศัยจำนวนมาก ร้านอาหารจึงมีมากตามไปด้วย และอาหารชนิดหนึ่งที่ขาดเสียไม่ได้เลยไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของประเทศไทย คืออาหารอีสาน ซึ่งที่นี่มี ร้านเจ๊จี ไก่ย่างบุรีรัมย์
“พิมพ์รสนี้เป็นชื่อที่ท่าน เสฐียรพงษ์ วรรณปก เมตตาตั้งให้ จำได้ว่าตอนที่มารับประทานที่นี่ พอกินเสร็จคิดเงิน ท่านก็ถามหาว่าใครเป็นเจ้าของร้าน แล้วก็ถามต่อว่ายังไม่มีชื่อร้านใช่ไหม เราก็บอกว่าใช่ ท่านก็ตั้งชื่อนี้ให้”
หลังจากที่ได้ยินชื่อของ บุญเรือน สารพันโชติวิทยา มาแล้ว ครานี้เราจะได้พบกับเขา เพราะเราหมายมั่นปั้นมือว่าจะไปหาเขาที่โรงงานขนมจีน
จากบ้านของเฮียตี๋ผู้เลี้ยงปลาสวยงาม เดินหน้าสู่ชุมชนเกาะส้มเสี้ยว หมู่ที่ 1 ตำบลหนองดินแดง เพื่อมาพบกับ ธนพล มีตังค์ เกษตรกรหัวก้าวหน้า ผู้ไม่นิยมระบบทุนนิยมผูกขาด จึงเลือกที่จะก้าวเดินด้วยลำแข้งของตัวเอง ในการผลิตปลาคุณภาพ
คงเป็นเรื่องที่น้อยคนนักจะรู้ ว่านครปฐมเป็นตลาดส่งออกปลาสวยงามที่ใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งเรามีโอกาสพบกับ บุญเกียรติ บุญวิธวาเจริญ หรือ เฮียตี๋ แห่งชุมชนคลองขุด หมู่ที่ 1 ตำบลหนองดินแดง ผู้เป็นเซียนปลาคนหนึ่งของวงการปลาสวยงามในจังหวัดนครปฐม
โอกาสเป็นสิ่งที่ต้องสร้างขึ้นเอง ลำพังแต่จะรอบุญพาวาสนาส่งอย่างเดียวคงไม่ไหว ยิ่งในยุคที่ทุกคนใส่เกียร์เดินหน้ากันแบบนี้ และกับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งอย่าง วิไลรัตน์ คิ้มแหน
ภายในชุมชนบ้านโพรงมะเดื่อ หมู่ที่ 5 ตำบลโพรงมะเดื่อ บริเวณบ้านหลังน้อยที่ร่มรื่นด้วยไม้ใหญ่ ด้านหน้ามีคลองไหลผ่าน เป็นบ้านของยายอุทัย ยะนิล หรือยายทัย ผู้ที่อายุล่วงผ่าน 6 รอบปีไปแล้ว แต่ร่างกายยังแข็งแรง
ตรงข้ามกับหมู่บ้านเมืองปอน ฝั่งนี้ภูมิประเทศเป็นเทือกเขา ดินแห้งแข็ง ขาดน้ำ หลายจุดยังเป็นหินอยู่เลย แต่ถึงกระนั้น เราก็ได้เห็นรอยยิ้มผลิพรายบนใบหน้าของ ร้อยตรีบุญยศ ผอนวล ข้าราชการทหารผู้ออกราชการก่อนกำหนดมาตั้งแต่ปี 2555 แล้วหันมาเป็นเกษตรกร
หลังจากพูดคุยเรื่องเหมืองฝาย เราตาม สุวิทย์ วารินทร์ อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองปอนมายังไร่นาสวนผสมขนาด 11 ไร่ เลาะเลียบถนนหลังโรงเรียนชุมชนบ้านเมืองปอน ที่มีลำเหมืองขนาบขนานไปตลอดเส้นทาง
ข้างๆ วัดเมืองปอน มีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ร้านหนึ่ง ตั้งตู้อยู่ใต้ชายคาของเรือนไม้เก่า เตาถ่านที่กำลังแดงร้อนคอยเคี่ยวกรำน้ำให้เดือดปุด ข้างเตามีผักกาดหั่นเป็นชิ้นน้อยแช่น้ำอยู่ ในตู้มีหมูต้ม ตอนนั้นเป็นช่วงพักเที่ยง ลูกค้ากำลังเข้า เราเองก็เช่นกัน